ภาค 1 เขียนไว้นานแระ ไป ค้นหาเอาเองนะ วันนี้เขียนไรตลกๆ ดีก่า เครียด เอิ๊กๆๆ
1. แฟนฝรั่งชอบชวนไปเที่ยวแต่ทะเลไม่รู้ทำไม สงสัยชอบสายลมและแสงแดดมั้ง
2. ฝรั่งงกก็จริงแต่เวลา booked โรงแรมชอบเอา โรงแรมหรูๆ ประมาณ กุอยากเที่ยวก็เที่ยวใครจาทามายแต่คนไทยจะเอาถูกไว้ก่อนคงเพราะ ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าเงิน กับเงินเก็บละมั้ง เพราะจ่ายภาษีเยอะรัฐสวัสดิการเยอะ (มั้ง เดาล้วนๆ)
3. ฝรั่งชอบว่ายน้ำ กับแช่น้ำในสระนานๆยิ่งแดดแรงๆยิ่งชอบ = = จะให้ครบสูตรต้องแช่น้ำแล้วอ่านหนังสือไปด้วย ฝรั่งอ่านหนังสือจดจ่อกับหนังสือได้เป็นวันจริงๆ ขนาดนั่งเครื่องยังอ่านหนังสือเลย ...ส่วนคนไทยเวลาอยู่บนเครื่องจะเล่นเกมส์ ipad ไม่ก็ดื่มเหล้าไวน์ ดูหนัง พวกแขกอาหรับจะเล่นไพ่ (คหสต. นี่ gu กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ผู้โดยสารบนเครื่องรึไง???)
4. ถ้าอยากทำให้ฝรั่งตื่นเต้น ก็แค่บอกว่า เออนี่ ที่รัก ตอนนี้ที่เมืองไทย 34 องศาแหละ แดดเปรี๊ยงเรยย ...แค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้วจริงๆ ==
5. ฝรั่งไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเก่งกันทุกคน และทุกชาติ และ อยากจะบอกว่า แกรมม่านั้น คนไทยเก่งที่สุดใน 3 โลกแล้วว พูดไปเถอะไม่ต้องกลัวผิด ฝรั่งยังพูดผิดเลยยจาบอกให้ 555
6. ฝรั่งไม่ได้ฉลาดกว่าคนไทย แต่มีวินัยมากกว่าคนไทย รักชาติไม่ขายชาติและตั้งใจทำงานมากกว่ามากถึงมากที่สุด ประเทศเค้าเลยเจริญ
7. ฝรั่งก็ชอบคนสวยนะ ขาวๆหมวยๆ น่ารักๆ ...แบบ ดำๆ ผอมๆ น่ะไม่เสมอไปหรอก...แบบว่าใครๆก็ชอบคนสวยอ่านะ ^^
8. ฝรั่งไม่ค่อยโกหกแต่เลือกที่จะไม่พูด(บางทีมันก็อึดอัดกว่าโกหกนะ) แต่คนไทยจะออกแนวแถๆไปเรื่อย ..ไม่ได้หมายความว่าใครดีกว่าใคร แค่บอกว่า เป็นแบบนี้...
9. ถ้าเราบอกแฟนฝรั่งว่า ชั้นอยากได้ ดอกไม้นะ ฮันนี่ ซื้อมาให้เค้าด้วย คืนนี้เลย...คุณก็จะได้ และฝรั่งไม่อายที่จะไปซื้อดอกไม้ด้วย แบบว่าไม่มองว่าไร้สาระแบบแฟนคนไทย...ข้อนี้รวมถึงแหวนเพชรและอื่นๆ ด้วยนะ ...แบบว่าฝรั่งเอาใจเก่งกว่าแฟนคนไทย(บางคน)
10. แฟนฝรั่ง ว่านอนสอนง่ายกว่าแฟนคนไทย บอกให้ทำไรก็ทำ แถมชอบหาทางทำให้เราพอใจด้วยย (ไม่รู้ดิ คบมาก็ว่าง่ายทุกคน)..แต่คนไทยจะประมาณ ผลัดวันประกันพรุ่ง เ่อ่อ เดี๋ยวน่า เด๊่ยวค่อยว่ากัน เด๊่ยวอยู่นั่นไม่อยู่กับปัจจุบัน เลยเลิกมันเรย ==...แต่แฟนฝรั่งจะจองตั๋วเอง โบรชัวร์ มาให้เลยแล้วถามว่าแบบนี้ดีมั๊ยๆๆ
ไม่ได้จะบอกว่า ฝรั่งดีกว่าคนไทย แค่เขียนจากประสบการณขำๆอ่ะ opinion นะ ม่ายช่าย fact อย่าดราม่าล่ะ ใครใส่ใจแฟนดีอยู่แล้วก็ดีใจด้วยยเย๊เย^^
ไม่มีใครทำให้เราเสียใจได้ ถ้าเราไม่ยอมซะอย่าง ^^ ...คิวต่อไปเชิญค่ะ (ฮิ้วๆ)
คำปิดท้ายเอนทรี่นี้นะ
ไม่มีใครมีค่าพอให้เราเสียน้ำตาได้ และถ้าจะมีคนคนนั้นจะไม่ทำเราร้องให้ by reasontosmile
thanks god who always love me love you too, reasonstosmile for cute motto Ayoomi my idol cute cat from sakuracos everyone in this world who always nice with me.
ลาไปกับน้องแมวเล่นโยคะ น่าร๊ากกก^^ 555 หาเพลงเข้ากับเอนทรี่ไม่ได้อีกแระ^^
Welcome to my Renaissance Era การเกิดใหม่ของฉันได้เริ่มขึ้นแล้ว A New Day HAS Come :)
Translate
วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
A-Z living wITh lOvE wiTHouT Fear VII
วันนี้ง่วงมากเรยย งานเข้าทั้งวัน...ก่อนนอนเขียนเรื่องนี้ละกันนะ...ตอนแรกว่าจะเขียนเรื่อง คอร์ด เปียโน แต่ เปลี่ยนใจ เข้าเรื่องกันเรยย
Ep. VI ถึงตัว O มาต่อกันเรยย
ประเด็นของบทความชุดนี้คือ "จงดำรงชีวิตอยู่ด้วยความรัก อย่าดำรงอยู่ด้วยความกลัว"
ใครอยากอ่าน จากตัว A-O เข้า category Marina-A-Z varity click
P: power คนที่ดำรงชีวิตด้วยความกลัวพอมีอำนาจ (ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากความบังเอิญ หรือ ทางลัด) ก็จะเหลิงหลงตัวเอง ใช้อำนาจไม่เกรงใจผู้อื่น เพราะไม่ได้เรียนรู้ถึงความลำบากหรอวิธีการที่ชอบธรรมที่จะได้อำนาจนั้นมา คิดว่าได้มาง่ายๆ จะทำยังไงก็ได้ จึงใช้อำนาจไม่ยั้งมือ อหังกา คิดว่าตัวเองเก่ง พอหมดอำนาจ (ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของโลก มีขึ้นมีลง) ก็โดนคนเกลียด คนที่เคยเบ่งไว้ทำไว้ กระทืบซ้ำ .... ส่วนคนที่มีชีวิตอิสระด้วยความรัก จะบริหารอำนาจสมดุลทุกฝ่ายเป็นไปตามครรลองและระบบที่มี เพราะ เขาความรู้จักตัวเอง และถ่อมตัว จึงทำให้คนที่มีชีวิตด้วยความรัก "ขึ้น" ได้นาน น่าภูิมิใจ มีศักดิ์ศรี และ เวลาลงรู้ตัวก็ลงมาเอง ไม่ต้องรอให้คนอื่นมาสอย...win win ้happy ทุกฝ่าย...
Q : questions คนที่อยู่ด้วยความกลัวเวลามีปัญหาอะไรสงสัยอะไร จะเก็บไว้ ไม่กล้าถามไม่ดูดซับความรู้ใหม่ๆ เพราะทะนงตัวว่าตัวเองเก่งแล้ว ดีแล้วว จะถามทำไม ชีวิตจึงอยู่กับที่และถอยหลังไม่ก้าวหน้า ประมาณกลัวโดนตราหน้าว่าโง่นั่นแหละ(มีคนแบบนี้มากมายจริงๆ ไว้อาลัย)....คนที่มีชีวิตอิสระด้วยความรัก เมื่อมีคำถาม ความสงสัง จะขบคิดในใจไปเรื่อยๆ หาความรู้ใหม่ๆ และไตร่ถามจากผู้รู้ เรียนรู้และเติบโตอยู่ตลอดเวลา เขาจึง เจริญขึ้นเรื่อยๆ มั่นใจขึ้นเรื่อยๆ และเพราะความช่างคิดช่างสงสัยนี่เองจึงทำให้เขามีความจำที่แม่นยำ และคำถามที่เฉียบคม รวมถึง วาทะที่หลักแหลม เพราะทั้งหมดทั้งมวล มันผ่านการคิดไตร่ตรองก่อนพูดมาแล้วนั่นเอง
R: regulation คนที่มีชีวิตด้วยความรักจะเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์ทั้งมวล อยู่เหนื่อบัญัญติทั้งมวล ไม่ใช่เพราะว่าเขาเลิศเลอมาจากไหน แต่เพราะเขา "เห็น" (รู้/คิด) ว่าการยึดติดกับ กฎเกรฑ์ต่างๆมีแต่จะทำให้ชีวิตยุ่งเหยิง...ทางออกของคนที่มีใจอิสระคือ อยู่เหนื่อกฎเกณฑ์และบัญญัติทั้งปวง หาประโยชน์จากมัน และปล่อยวางซะ มันก็เท่านั้น...แต่คนที่กลัวจะทำไม่ได้ เพราะ คนที่กลัวจะ เชืื่อ สิ่งสมมุติ เชื่อกฎเกณฑ์ต่างๆ จนแยกไม่ออกว่า อะไรควรปล่อยวาง อะไรควรยึดมั่น ออกแนวงมงาย ค่อนไปทาง โง่...
วันนี้ได้เท่านี้แหละ...ไม่ต้องสงสัยหรอกนะว่าเขียนลากยาวมาได้ยังไง เพราะคนเขียนเคยเป็นทุกบุคลิคที่กล่าวมาแล้วนั้นเอง 555
good night ^^ Auf Wiedersehen
คำปิดท้ายเอนทรี่นี้นะ^^
ขอบคุณ สวรรค์ที่ทำให้ชั้นยังเป็นชั้น ^^ god who always beside me everyone who owned these pics Ayoomi my idal and everyone in this world who always nice with me. thanks a lots.
ลาไปกับน้องแมวขี้สงสัย เย๊เย...วันนี้หาเพลงประกอบบทความไม่เจอนะเค๊อะ^^
Ep. VI ถึงตัว O มาต่อกันเรยย
ประเด็นของบทความชุดนี้คือ "จงดำรงชีวิตอยู่ด้วยความรัก อย่าดำรงอยู่ด้วยความกลัว"
ใครอยากอ่าน จากตัว A-O เข้า category Marina-A-Z varity click
P: power คนที่ดำรงชีวิตด้วยความกลัวพอมีอำนาจ (ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากความบังเอิญ หรือ ทางลัด) ก็จะเหลิงหลงตัวเอง ใช้อำนาจไม่เกรงใจผู้อื่น เพราะไม่ได้เรียนรู้ถึงความลำบากหรอวิธีการที่ชอบธรรมที่จะได้อำนาจนั้นมา คิดว่าได้มาง่ายๆ จะทำยังไงก็ได้ จึงใช้อำนาจไม่ยั้งมือ อหังกา คิดว่าตัวเองเก่ง พอหมดอำนาจ (ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของโลก มีขึ้นมีลง) ก็โดนคนเกลียด คนที่เคยเบ่งไว้ทำไว้ กระทืบซ้ำ .... ส่วนคนที่มีชีวิตอิสระด้วยความรัก จะบริหารอำนาจสมดุลทุกฝ่ายเป็นไปตามครรลองและระบบที่มี เพราะ เขาความรู้จักตัวเอง และถ่อมตัว จึงทำให้คนที่มีชีวิตด้วยความรัก "ขึ้น" ได้นาน น่าภูิมิใจ มีศักดิ์ศรี และ เวลาลงรู้ตัวก็ลงมาเอง ไม่ต้องรอให้คนอื่นมาสอย...win win ้happy ทุกฝ่าย...
Q : questions คนที่อยู่ด้วยความกลัวเวลามีปัญหาอะไรสงสัยอะไร จะเก็บไว้ ไม่กล้าถามไม่ดูดซับความรู้ใหม่ๆ เพราะทะนงตัวว่าตัวเองเก่งแล้ว ดีแล้วว จะถามทำไม ชีวิตจึงอยู่กับที่และถอยหลังไม่ก้าวหน้า ประมาณกลัวโดนตราหน้าว่าโง่นั่นแหละ(มีคนแบบนี้มากมายจริงๆ ไว้อาลัย)....คนที่มีชีวิตอิสระด้วยความรัก เมื่อมีคำถาม ความสงสัง จะขบคิดในใจไปเรื่อยๆ หาความรู้ใหม่ๆ และไตร่ถามจากผู้รู้ เรียนรู้และเติบโตอยู่ตลอดเวลา เขาจึง เจริญขึ้นเรื่อยๆ มั่นใจขึ้นเรื่อยๆ และเพราะความช่างคิดช่างสงสัยนี่เองจึงทำให้เขามีความจำที่แม่นยำ และคำถามที่เฉียบคม รวมถึง วาทะที่หลักแหลม เพราะทั้งหมดทั้งมวล มันผ่านการคิดไตร่ตรองก่อนพูดมาแล้วนั่นเอง
R: regulation คนที่มีชีวิตด้วยความรักจะเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์ทั้งมวล อยู่เหนื่อบัญัญติทั้งมวล ไม่ใช่เพราะว่าเขาเลิศเลอมาจากไหน แต่เพราะเขา "เห็น" (รู้/คิด) ว่าการยึดติดกับ กฎเกรฑ์ต่างๆมีแต่จะทำให้ชีวิตยุ่งเหยิง...ทางออกของคนที่มีใจอิสระคือ อยู่เหนื่อกฎเกณฑ์และบัญญัติทั้งปวง หาประโยชน์จากมัน และปล่อยวางซะ มันก็เท่านั้น...แต่คนที่กลัวจะทำไม่ได้ เพราะ คนที่กลัวจะ เชืื่อ สิ่งสมมุติ เชื่อกฎเกณฑ์ต่างๆ จนแยกไม่ออกว่า อะไรควรปล่อยวาง อะไรควรยึดมั่น ออกแนวงมงาย ค่อนไปทาง โง่...
วันนี้ได้เท่านี้แหละ...ไม่ต้องสงสัยหรอกนะว่าเขียนลากยาวมาได้ยังไง เพราะคนเขียนเคยเป็นทุกบุคลิคที่กล่าวมาแล้วนั้นเอง 555
good night ^^ Auf Wiedersehen
คำปิดท้ายเอนทรี่นี้นะ^^
ขอบคุณ สวรรค์ที่ทำให้ชั้นยังเป็นชั้น ^^ god who always beside me everyone who owned these pics Ayoomi my idal and everyone in this world who always nice with me. thanks a lots.
ลาไปกับน้องแมวขี้สงสัย เย๊เย...วันนี้หาเพลงประกอบบทความไม่เจอนะเค๊อะ^^
วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
Review: shiseido maquillage rough enamel
เมื่อวานนี้ เปลี่ยนสีผมมา (ทำเองนะเค๊อะ ประหยัดค่ะ ^^) อยากให้ look ดู สดใส ใหม่ สว่างขึ้น ไปซื้อใช้ของที่ lotus เรยหยิบ ครีมเปลี่ยนสีผมมาทำเองที่บ้านด้วยซะเรยยย....
มันจะยากซักแค่ไหนกันเชียวว ไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็เสร็จ ไม่ต้องไปทำที่ร้านนนาน (เสียเว... และไม่มีเวลาเข้าร้านจริงๆ T_T") ทำเสร็จก็ใส่ประกายเองด้วย ทรีทเม้นเอง ก็เรียบร้อย^^ แต่วันนี้ไม่ Review ครีมเปลี่ยนสีผมนะเค๊อ......Rina-my-beauty วันนี้มารีวิว กรอส กับ ลิปติกดีก่า....
หนึ่งใน ลิป ที่พก เราชอบอันดับต้นๆคือ shiseido maquillage rough enamel เพราะมันมีทั้งด้าน ลิปติดเนื้อด้านและ กรอสรวมแสงในแท่งเดียวกัน....และเราก็ชอบใช้ shiseido maquillage มาตั้งนานแล้นน เพราะมันเหมาะกับวัยทีนแบบเราดี (ช่างกล้านะเทอร์)
โฆษณานี้ แบบว่า ได้ อายุมิมาย ไอดัลมา present ด้วย โอวววยิ่งชอบ (ยิ้ม)
เราซื้อสีเดียวกับในโฆษณาเลยย สีแดง เราว่า ลิปมันทนดี แล้วกรอสรวมแสงก็ ดึงดูดความสนใจให้คน ที่เรากำลังคุยด้วยมองแต่ปาก...ขาดสติสัมปชัญญะชั่วครู่...หลอกล่อ ทำธุรกิจ การค้า หรือเรื่องอื่นๆก็ง่ายขึ้นดี 55 เิกิดเป็น ผญ ก็ ดีแบบนี้แหละ ^^
เราซื้อมา 1250 บาท (ได้ลดจากบัตรอีกเท่าไหร่จำม่ะได้แระ) จากเคาเตอร์ปกติ ใช้มา เกือบสองปียังไม่หมดเลย (เพราะมีลิป เยอะ555) ถ้ามีบัตรเเพลตินั่มโรบินสันลดได้อีกนะ แถมมีของแถมให้ด้วย มีแต้ม X 2 , 3, 4,.... win win ไม่ได้ขาช๊อป แต่ก็สามารถซื้อของ ดี และถูกได้นะเค๊อะ...
ok จบรีววิว แต่เพียงเท่านี้ อย่าหยุดสวย ผญ ทุกคนมีความสวยในตัวนะคะ C ya
คำปิดท้าย เอนทรี่
"A new me, A new world" เมื่อฉันเปลี่ยนโลกก็เปลี่ยน ^__^
ชิเซโด้
ขอบคุณ สวรรค์ และทุกๆคนที่เป็นเจ้าของรูปภาพ มากียาซที่ ทำ item น่ารักๆ cool cool ออกมา อายุมิมายไอดัล และทุกๆคนบนโลกนี้ที่ดีกับชั้น
ลาไปกับน้องแมวขี้อ้อนน่ารัดที่สวดเรยยย^^
มันจะยากซักแค่ไหนกันเชียวว ไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็เสร็จ ไม่ต้องไปทำที่ร้านนนาน (เสียเว... และไม่มีเวลาเข้าร้านจริงๆ T_T") ทำเสร็จก็ใส่ประกายเองด้วย ทรีทเม้นเอง ก็เรียบร้อย^^ แต่วันนี้ไม่ Review ครีมเปลี่ยนสีผมนะเค๊อ......Rina-my-beauty วันนี้มารีวิว กรอส กับ ลิปติกดีก่า....
หนึ่งใน ลิป ที่พก เราชอบอันดับต้นๆคือ shiseido maquillage rough enamel เพราะมันมีทั้งด้าน ลิปติดเนื้อด้านและ กรอสรวมแสงในแท่งเดียวกัน....และเราก็ชอบใช้ shiseido maquillage มาตั้งนานแล้นน เพราะมันเหมาะกับวัยทีนแบบเราดี (ช่างกล้านะเทอร์)
โฆษณานี้ แบบว่า ได้ อายุมิมาย ไอดัลมา present ด้วย โอวววยิ่งชอบ (ยิ้ม)
เราซื้อสีเดียวกับในโฆษณาเลยย สีแดง เราว่า ลิปมันทนดี แล้วกรอสรวมแสงก็ ดึงดูดความสนใจให้คน ที่เรากำลังคุยด้วยมองแต่ปาก...ขาดสติสัมปชัญญะชั่วครู่...หลอกล่อ ทำธุรกิจ การค้า หรือเรื่องอื่นๆก็ง่ายขึ้นดี 55 เิกิดเป็น ผญ ก็ ดีแบบนี้แหละ ^^
เราซื้อมา 1250 บาท (ได้ลดจากบัตรอีกเท่าไหร่จำม่ะได้แระ) จากเคาเตอร์ปกติ ใช้มา เกือบสองปียังไม่หมดเลย (เพราะมีลิป เยอะ555) ถ้ามีบัตรเเพลตินั่มโรบินสันลดได้อีกนะ แถมมีของแถมให้ด้วย มีแต้ม X 2 , 3, 4,.... win win ไม่ได้ขาช๊อป แต่ก็สามารถซื้อของ ดี และถูกได้นะเค๊อะ...
ok จบรีววิว แต่เพียงเท่านี้ อย่าหยุดสวย ผญ ทุกคนมีความสวยในตัวนะคะ C ya
คำปิดท้าย เอนทรี่
"A new me, A new world" เมื่อฉันเปลี่ยนโลกก็เปลี่ยน ^__^
ชิเซโด้
ขอบคุณ สวรรค์ และทุกๆคนที่เป็นเจ้าของรูปภาพ มากียาซที่ ทำ item น่ารักๆ cool cool ออกมา อายุมิมายไอดัล และทุกๆคนบนโลกนี้ที่ดีกับชั้น
ลาไปกับน้องแมวขี้อ้อนน่ารัดที่สวดเรยยย^^
วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
มาฝึกเป็นคนไม่ธรรมดากัน ^_^
เอิ๊กๆๆ(หัวเราะ) เมื่อเช้านี้ บล๊อกของคุณ atpt1978 เค้าฝึกเป็นคนธรรมดากัน ...พอเป็นคนธรรมดาได้แล้น สติดีแล้นน focus กับปัจจุบันได้แล้นนความ คิดสดใสปราศจาคอคติ คิดแบบเด็กๆได้แล้นนน มาฝึกเป็นคนไม่ธรรมดากัลลล
Rina-Deutsch เยอรมันกากๆวันนี้ ขอนำเสนอบทพูดสั้น ๆ (แต่สันหลังยาว= =)
แบบมั่นๆสไตล์สาวฝรั่ง ประชันกับกับ....
Chinese language น่ารักสดใสในแบบสาวเอเชีย กัลล เอาให้เมาหัวกันไปข้างนึงเรยย 555 (สร้างสรรค์จริงะเทอร์^^)
ความเห้นส่วนตัว ยังไงน้องมารีนาก็ชอบคนเอเชีย นอบน้อม ไม่ดื้อรั้นแบบฝรั่ง ภาษาเอเชียเป็นภาษาคำโดดไม่มีแกรมม่าบ้าบิ่น ไร้เหตุผลแบบภาษายุโรป อยู่ดีละน๊าาา แม้จามีแฟนเป็นฝรั่ง ^^
ปล. การเรียนรู้เยอะ ทำให้เรายิ่งมีไหวพริบเชาว์ปัญญาและมีพลังมากขึ้นนะคะ อย่าคิดว่าการเรียนรู้หรือทำอะไรต้องทำอย่างหนึ่งให้ดีไปเลยไม่งั้นเป็นคนจับจด
สิ่งที่แยกระหว่างคนจับจด กับ คนมากความสามารถ คือสมาธิและความอึด...สมองคนเรายิ่งใช้มันยิ่งสร้างทางใหม่ไปเรื่อย อย่ามีทัศนคติที่ว่า กูเก่งอย่างเดียวแน่ๆดีก่า(แต่สุดท้ายอย่างเดียวที่ว่า กุ ก็ไม่เก่ง เพราะมันเครียดไม่ relax สมองไปด้านอื่น)...เกิดมาแล้วก็ใช้มันทุกด้านเรยนะชีวิต โอ่เค๊???
ok มาบรรเลงกัลลเรยยย
น้องมารีนาพูดว่า: Hallo wie ghet es dir? ฮาาา โล้้ลลล วี เกส เอสสส เดียร์ = หวาดดี ซาบายดีหยอ ตะเอง งุงิ^^
แล้วน้องมารีนาก็เออ เองว่า: Mir geht es gut Danke!! เมียร์ เกส เอส กุท ดั้งเค๊อะ = เออก็ดีนะตะเอง ขอบจายย ^^
น้องมารีนาก็พูดอีกว่า: Wie heist du? วิ ไฮ้ส ดุ = ชื่ออารายหรอเทอร์ ^__^
น้องมารีนาก็ตอบเองว่า : Ich heise Marina^^ อิช ไฮ เซ่อะส มารีนา = เค้าชื่อน้องมารีนา น่าร๊ากก (เป็นไรมากมั๊ย ==)
น้องมาีรีนาถามว่า : Wie alt bist du? วี ไอส์ บิส ดุ = น้องมารีนา อายุ เท่าหร่ายยยย (หนักนะเนี่ย)
น้องมารีนาตอบเองอีกแระว่า : Ich bin 18 Jahre alt. อิชบิน 18 หยาเฮอร์ ไอท์ = ตอนนี้น้องมารีนาอายุ (สมอง) 18 ขวบนะเค๊อะ^^
เอวัง....มาต่อ ไชนิสสกัลเรยยย = =" (ขออภัย คอมน้องมาีรีนา ไม่มี ระบบพินอิน จะตกวรรคยุคไป แล้วจะเขียนคำอ่านไทยให้ถูกนะเค๊อะ ^^)
น้องมารีนา: Ni hao ma? หนี ฮ่าววว มา = สบายดีมั๊ย
น้องมารีนาอีกที: Wo Hen hao. หว่อ เหิรร ฮ่าววว = สบายดีจ๊าาา (อาการหนักนะเนี่ย ==")
น้องมารีนา solo ต่อ: Ni mang ma? นี่ หมาง มา = น้องมารีนา ยุ่งมั๊ยเค๊อะ
น้องมารีนาก็ตอบว่า : Bu tai mang. บู๊ ไท่ หมาง = ม่ายยุ่งเลยค่ะ (แค่ไม่ได้นอนเอง ==")
น้องมารีนา: Zaijian ไจ่ เจี๊ยน = งั้นก็บายน๊า ^^
น้องมารีนา อีกที: Zaijian ไจ้เจี่ยน = บายจ้าูู^^
.....................................................
จาก conversation ข้างบน จะเห็นได้ว่า ภาษาจีนง่ายมาก และ ไวยากรณ์แทบจะไม่ต่างจากภาษาไทยเรยยย....แต่ภาษาเยอรมัน แกรมม่าบ้าบิ่นมาก เปลี่ยนประธานกริยาเปลี่ยน มีเพศ และอื่นๆอีกมากมายเหลือรับประทาน....แต่ก็ โอ่ เค๊ ....พูดไปพูดมามานก็ได้ของมานเองงง อย่าซีเครียด....เข้าใจ๊ (หนักนะเนี่ย)
คำปิดท้ายเอนทรี่สุดเลิฟนี้นะ^^
ขอบคุณ BeeGee for lovely songูู ^^สวรรค์ที่ ทำให้หนูยังเป็นหนูแบบนี้ (ยิ้ม) god who always love me ^^ Pete my big love ^^ everyone who owned and always nice with me Ayoome my idol cat cat cute cat from sakuracos^^
ลาไปกับ ลาไปกับน้องแมวกำลังพยายามกินน้ำ^^ น่ารัดที่สวดเรยยย work less play more sleep less nap more^^
Rina-Deutsch เยอรมันกากๆวันนี้ ขอนำเสนอบทพูดสั้น ๆ (แต่สันหลังยาว= =)
แบบมั่นๆสไตล์สาวฝรั่ง ประชันกับกับ....
Chinese language น่ารักสดใสในแบบสาวเอเชีย กัลล เอาให้เมาหัวกันไปข้างนึงเรยย 555 (สร้างสรรค์จริงะเทอร์^^)
ความเห้นส่วนตัว ยังไงน้องมารีนาก็ชอบคนเอเชีย นอบน้อม ไม่ดื้อรั้นแบบฝรั่ง ภาษาเอเชียเป็นภาษาคำโดดไม่มีแกรมม่าบ้าบิ่น ไร้เหตุผลแบบภาษายุโรป อยู่ดีละน๊าาา แม้จามีแฟนเป็นฝรั่ง ^^
ปล. การเรียนรู้เยอะ ทำให้เรายิ่งมีไหวพริบเชาว์ปัญญาและมีพลังมากขึ้นนะคะ อย่าคิดว่าการเรียนรู้หรือทำอะไรต้องทำอย่างหนึ่งให้ดีไปเลยไม่งั้นเป็นคนจับจด
สิ่งที่แยกระหว่างคนจับจด กับ คนมากความสามารถ คือสมาธิและความอึด...สมองคนเรายิ่งใช้มันยิ่งสร้างทางใหม่ไปเรื่อย อย่ามีทัศนคติที่ว่า กูเก่งอย่างเดียวแน่ๆดีก่า(แต่สุดท้ายอย่างเดียวที่ว่า กุ ก็ไม่เก่ง เพราะมันเครียดไม่ relax สมองไปด้านอื่น)...เกิดมาแล้วก็ใช้มันทุกด้านเรยนะชีวิต โอ่เค๊???
ok มาบรรเลงกัลลเรยยย
น้องมารีนาพูดว่า: Hallo wie ghet es dir? ฮาาา โล้้ลลล วี เกส เอสสส เดียร์ = หวาดดี ซาบายดีหยอ ตะเอง งุงิ^^
แล้วน้องมารีนาก็เออ เองว่า: Mir geht es gut Danke!! เมียร์ เกส เอส กุท ดั้งเค๊อะ = เออก็ดีนะตะเอง ขอบจายย ^^
น้องมารีนาก็พูดอีกว่า: Wie heist du? วิ ไฮ้ส ดุ = ชื่ออารายหรอเทอร์ ^__^
น้องมารีนาก็ตอบเองว่า : Ich heise Marina^^ อิช ไฮ เซ่อะส มารีนา = เค้าชื่อน้องมารีนา น่าร๊ากก (เป็นไรมากมั๊ย ==)
น้องมาีรีนาถามว่า : Wie alt bist du? วี ไอส์ บิส ดุ = น้องมารีนา อายุ เท่าหร่ายยยย (หนักนะเนี่ย)
น้องมารีนาตอบเองอีกแระว่า : Ich bin 18 Jahre alt. อิชบิน 18 หยาเฮอร์ ไอท์ = ตอนนี้น้องมารีนาอายุ (สมอง) 18 ขวบนะเค๊อะ^^
เอวัง....มาต่อ ไชนิสสกัลเรยยย = =" (ขออภัย คอมน้องมาีรีนา ไม่มี ระบบพินอิน จะตกวรรคยุคไป แล้วจะเขียนคำอ่านไทยให้ถูกนะเค๊อะ ^^)
น้องมารีนา: Ni hao ma? หนี ฮ่าววว มา = สบายดีมั๊ย
น้องมารีนาอีกที: Wo Hen hao. หว่อ เหิรร ฮ่าววว = สบายดีจ๊าาา (อาการหนักนะเนี่ย ==")
น้องมารีนา solo ต่อ: Ni mang ma? นี่ หมาง มา = น้องมารีนา ยุ่งมั๊ยเค๊อะ
น้องมารีนาก็ตอบว่า : Bu tai mang. บู๊ ไท่ หมาง = ม่ายยุ่งเลยค่ะ (แค่ไม่ได้นอนเอง ==")
น้องมารีนา: Zaijian ไจ่ เจี๊ยน = งั้นก็บายน๊า ^^
น้องมารีนา อีกที: Zaijian ไจ้เจี่ยน = บายจ้าูู^^
.....................................................
จาก conversation ข้างบน จะเห็นได้ว่า ภาษาจีนง่ายมาก และ ไวยากรณ์แทบจะไม่ต่างจากภาษาไทยเรยยย....แต่ภาษาเยอรมัน แกรมม่าบ้าบิ่นมาก เปลี่ยนประธานกริยาเปลี่ยน มีเพศ และอื่นๆอีกมากมายเหลือรับประทาน....แต่ก็ โอ่ เค๊ ....พูดไปพูดมามานก็ได้ของมานเองงง อย่าซีเครียด....เข้าใจ๊ (หนักนะเนี่ย)
คำปิดท้ายเอนทรี่สุดเลิฟนี้นะ^^
ขอบคุณ BeeGee for lovely songูู ^^สวรรค์ที่ ทำให้หนูยังเป็นหนูแบบนี้ (ยิ้ม) god who always love me ^^ Pete my big love ^^ everyone who owned and always nice with me Ayoome my idol cat cat cute cat from sakuracos^^
ลาไปกับ ลาไปกับน้องแมวกำลังพยายามกินน้ำ^^ น่ารัดที่สวดเรยยย work less play more sleep less nap more^^
วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
trick no.5 อย่าลดมาตรฐานตัวเอง (เข้าใจ๊)
วันนี้ง่วงนอนมาก จดไว้กันลืม...
ใครอยากอ่าน trick no. 1-4 ในแบบของเรา (เขียนเองไม่ได้ตามกระแสใครไม่ได้เป็นร่างทรงใครเป็นตัวของตัวเองสุดๆครายจาทามไม^^ ) เข้า category Rina trick click here
เอนทรี่นี้ ต่อจากเอนทรี่นี้ http://marina471.exteen.com/20120714/a-z-living-with-love-without-fear-vi click ต้องอ่านเอนทรี่นั้นก่อนถึงจะอ่านอันนี้เข้าใจ...มันต่อเนื่องกัน เป็น tense perfect con. (วิชาการแดกหรอคะ? อังกิดแดกมาซะ ==")
ok หลังจากวันเสาร์ว๊าก เด็กใหม่ (ของบริษัทฝรั่ง) ไปแล้ว...วันนี้มีประชุมต่อเนื่องอีก ...ฝรั่ง ก็เอา คนใหม่ แบบมืออาชีพมาก คนไทยด้วยกันนี่แลหะ (น่าจะ 40 up) คนนี้เก่งมาก มาบรี๊ฟงานให้น้องมารีนา...พร้อมทั้ง แลกเปลี่ยนความเห็นและตกลงกัน ....เจอแบบนี้ค่อย ok หน่อย คนเก่ง คนเข้าใจ คนทำงานเป็น คนมีวุฒิภาวะ ทำงานด้วยมันก็ราบรื่น ได้เนื้องานเยอะ มีคุณภาพ ไม่กลวงๆ โบ๋เบ๋ และที่สำคัญไม่เสียเว...(เวลามีค่ามากกว่าเงินนะ..ในความเห็นเรา เราไม่ขายเวลาในชีวิตเป็นอันขาด)....
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....อย่ายอมรับอะไรง่ายๆ คนทำงานชุ่ยๆ partner ที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีสำนึกที่ดีในการทำงาน ไม่มีมารยาท แฟนที่เข้ากันไม่ได้ ของใช้ห่วยๆ ไม่มีstyle (ไม่ได้แปลว่าของแพงเสมอไป) เพื่อนเลวๆ น้องหมาน้องแมวนิสัยเสีย...ลูกหลานนิสัยเสีย...และอื่นๆ เพียงเพราะว่าคิดว่าตัวเองเลือกไม่ได้ ...ไม่จริงเลย ถ้าเรามีมาตรฐานชีวิตและความคิดอุดมการณ์สูงซะอย่าง คนดีๆของดีๆมันก็มาเอง...อย่างในเรื่องนี้ พาร์ทเนอร์ฝรั่งก็หาคนทำงานมืออาชีพมาให้เราแทนเด็กใหม่ ขี้โม้หลงตัวเองนั่น...มันไม่ได้แปลว่า เราไม่ให้โอกาสเด็กใหม่...เราให้โอกาสเสมอ ถ้าคนคนนนั้นฝึกฝนตัวเอง และไม่ดีแต่พูด...คล้ายๆ เราเรียนอยู่ห้องคิงส์ จะเอาคนทำงานห้องบ๊วยมาทำงานด้วย มันก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง..เราไม่สามารถสอนใครได้เพราะเราไม่มีพรสวรรค์และความอดทนแบบจิตวิญาณครู...แต่เราไม่รับมาตรฐานที่ต่ำกว่าสามัญสำนึกเราบอกแน่ๆ....
คนไม่เก่งก็ ต้องฝึกฝนตัวเองจนเก่ง เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ จึงจะทำงานแบบมืออาชีพขั้นสูงได้ win win ทั้งคุณภาพ ปริมาณ เวลา เงินทุน ได้ใจทุกฝ่าย มีศิลปะ..ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด ...คนเราจะเก่งและขึ้นที่สูงได้ ก็ต้องอย่ายอมรับผลงาน แค่พอผ่าน มาตรฐานต่ำๆ อย่าทำ ถ้าอยากเจริญ
จบ trick no.4 ง่วงมาก หาเพลงไม่เจอ เขียนผิดเขียนไม่ดี sorry นะ เขียน ดิบๆไว้ก่อนให้ตัวเองอ่านน่ะ^^
ปล. การไม่ลดมาตรฐานของตัวเอง ไม่ทำงานชุ่ยๆ ใส่ใจ พยายาม ทุ่มเท มุ่งมั่น ไม่ยอมรับอะไรแบบผ่านๆ รอบคอบ...คนละเรื่องกับการไม่ปรับตัวเข้าหาคนอื่น เรื่องมาก หรือความอหังกานะคะ มันต่างกันนน (แต่มันค้ลายๆกันบางมุม ==")
คำปิดท้ายเอนทรี่นี้
thanks: God who always beside me, reasontosmile for nice words Ayoomi my idol and everyone who always nice and love me^^
good night my blog so sleepy today = =
ใครอยากอ่าน trick no. 1-4 ในแบบของเรา (เขียนเองไม่ได้ตามกระแสใครไม่ได้เป็นร่างทรงใครเป็นตัวของตัวเองสุดๆครายจาทามไม^^ ) เข้า category Rina trick click here
เอนทรี่นี้ ต่อจากเอนทรี่นี้ http://marina471.exteen.com/20120714/a-z-living-with-love-without-fear-vi click ต้องอ่านเอนทรี่นั้นก่อนถึงจะอ่านอันนี้เข้าใจ...มันต่อเนื่องกัน เป็น tense perfect con. (วิชาการแดกหรอคะ? อังกิดแดกมาซะ ==")
ok หลังจากวันเสาร์ว๊าก เด็กใหม่ (ของบริษัทฝรั่ง) ไปแล้ว...วันนี้มีประชุมต่อเนื่องอีก ...ฝรั่ง ก็เอา คนใหม่ แบบมืออาชีพมาก คนไทยด้วยกันนี่แลหะ (น่าจะ 40 up) คนนี้เก่งมาก มาบรี๊ฟงานให้น้องมารีนา...พร้อมทั้ง แลกเปลี่ยนความเห็นและตกลงกัน ....เจอแบบนี้ค่อย ok หน่อย คนเก่ง คนเข้าใจ คนทำงานเป็น คนมีวุฒิภาวะ ทำงานด้วยมันก็ราบรื่น ได้เนื้องานเยอะ มีคุณภาพ ไม่กลวงๆ โบ๋เบ๋ และที่สำคัญไม่เสียเว...(เวลามีค่ามากกว่าเงินนะ..ในความเห็นเรา เราไม่ขายเวลาในชีวิตเป็นอันขาด)....
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า....อย่ายอมรับอะไรง่ายๆ คนทำงานชุ่ยๆ partner ที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มีสำนึกที่ดีในการทำงาน ไม่มีมารยาท แฟนที่เข้ากันไม่ได้ ของใช้ห่วยๆ ไม่มีstyle (ไม่ได้แปลว่าของแพงเสมอไป) เพื่อนเลวๆ น้องหมาน้องแมวนิสัยเสีย...ลูกหลานนิสัยเสีย...และอื่นๆ เพียงเพราะว่าคิดว่าตัวเองเลือกไม่ได้ ...ไม่จริงเลย ถ้าเรามีมาตรฐานชีวิตและความคิดอุดมการณ์สูงซะอย่าง คนดีๆของดีๆมันก็มาเอง...อย่างในเรื่องนี้ พาร์ทเนอร์ฝรั่งก็หาคนทำงานมืออาชีพมาให้เราแทนเด็กใหม่ ขี้โม้หลงตัวเองนั่น...มันไม่ได้แปลว่า เราไม่ให้โอกาสเด็กใหม่...เราให้โอกาสเสมอ ถ้าคนคนนนั้นฝึกฝนตัวเอง และไม่ดีแต่พูด...คล้ายๆ เราเรียนอยู่ห้องคิงส์ จะเอาคนทำงานห้องบ๊วยมาทำงานด้วย มันก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง..เราไม่สามารถสอนใครได้เพราะเราไม่มีพรสวรรค์และความอดทนแบบจิตวิญาณครู...แต่เราไม่รับมาตรฐานที่ต่ำกว่าสามัญสำนึกเราบอกแน่ๆ....
คนไม่เก่งก็ ต้องฝึกฝนตัวเองจนเก่ง เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ จึงจะทำงานแบบมืออาชีพขั้นสูงได้ win win ทั้งคุณภาพ ปริมาณ เวลา เงินทุน ได้ใจทุกฝ่าย มีศิลปะ..ไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิด ...คนเราจะเก่งและขึ้นที่สูงได้ ก็ต้องอย่ายอมรับผลงาน แค่พอผ่าน มาตรฐานต่ำๆ อย่าทำ ถ้าอยากเจริญ
จบ trick no.4 ง่วงมาก หาเพลงไม่เจอ เขียนผิดเขียนไม่ดี sorry นะ เขียน ดิบๆไว้ก่อนให้ตัวเองอ่านน่ะ^^
ปล. การไม่ลดมาตรฐานของตัวเอง ไม่ทำงานชุ่ยๆ ใส่ใจ พยายาม ทุ่มเท มุ่งมั่น ไม่ยอมรับอะไรแบบผ่านๆ รอบคอบ...คนละเรื่องกับการไม่ปรับตัวเข้าหาคนอื่น เรื่องมาก หรือความอหังกานะคะ มันต่างกันนน (แต่มันค้ลายๆกันบางมุม ==")
คำปิดท้ายเอนทรี่นี้
thanks: God who always beside me, reasontosmile for nice words Ayoomi my idol and everyone who always nice and love me^^
good night my blog so sleepy today = =
วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ยกเลิก dream list no.2
my today's diary
วันนี้หลังจากว่ายน้ำเสร็จ...ก็ solo ขับรถเล่นต่อ ....และแล้ว กุก็โดนรถชน ฮือๆๆ แบบรถกุติดไฟแดงใช่ป่ะ กุก็เกียร์ว่างจอดชิดเลนส์ขวาสุดเพราะกุ ขับรถเร็ว...จอดนิ่งๆ รอไฟแดง ....มีกระบะXXX ทะเบียน ตจว. คันนึง (ที่บอกทะเบียนต่างจังหวัดนัยยะคือเค้าไม่ชินทางไง) เป็นรถกะบะที่หย่ายยและสูงงงงมากเมื่อเทียบกันรถคันเล็กๆของน้องมารีนา...แค่ช่วงเวลา 5 วินาที เค้าเลี้ยวมา แต่ตอนนั้นคนขับรถวีโก้ไม่ได้มองว่ามีรถของเราจอดรอไฟแดงที่เลนส์ขวาริมสุด....กุเห็นจะจะกับสองตาเลย หัวรถกะบะพุ่งมาชนรถที่กุจอดติดไฟแดงอย่างจัง....กุหลบไม่ทันเพราะกุเข้าเกียร์ว่างไว้ หักพวกมาลัย ก็ไม่ได้เข้าเกียร์ กุ เลยโดนชนเต๊มๆๆจังๆ....TT_TT นี่ขนาดจอดรถเฉยๆ ก็ยังโดนชนนะเนี่ย ถ้าขับทั้งสองคัน ความเร็ว X 2 กุคงได้ไปหาหมอ....
อีชะนีที่มันนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถออกมาวีน เลยว่า กุจอดรถไฟแดงเลนขวาเกิน ...โอวววว...กุเลย ด่ามัน นี่รถกุจอดเฉยๆๆนะ เมิงมาชนกุ ยังจะมาด่ากุ อีก...แต่กุตกใจมาก ประกอบกับคนแถวนั้นมาช่วยกันเครียร์ แล้วปกติกุไม่พกโทรศัพท์เวลาส่วนตัวกุเลยไม่บอกใคร (แต่เขียนลงบล๊อกระบายค่ะู^^) เดี่ยวดังอีก...คนขับรถก็เลยมาขอโทษกุ เพราะตอนเค้าเลี้ยวมาเค้ามองไปทางอื่นเค้าเลยไม่เห็นกุ ....กุก็เลยขอโทษเค้าบอกเออ กุก็จอดขวาไป (แต่ไม่กินเลนส์ตรงข้ามนะเค๊อะ^^)
กุ นี่อยากจะตบ อีชะนีนางนั้นจริงๆ ...แต่ก็ได้ว่ะ เสียเว...คำนวนล่ะ ไม่อยากแลก ยิ่งไม่มีเวลาอยู่....ดูมันพูด
ชะนี..กระชากเสียง
"จะเอาไรล่ะ เอาเท่าไหร่ " (แสดงว่า มานก็รู้ตัวนะว่ามานนผิด555 มานถึงพูดแบบนี้)
คนไทยแม่๘่งคิดแต่เรื่องเิงิน...ถ้าเป็นฝรั่งจากประสบการณ์จะรีบถามเลยว่าเป็นไรมั๊ย ไปหาหมอเช็คมั๊ย ถูกผิดว่ากันทีหลัง แถมไม่ด่าด้วย แฟนอีชะนีนางนั้น(คนขับ)กับคนมาช่วยกุ เลยถามว่ากุเป็นไรมั๊ย (เพราะรถมันคันหย่ายยมากเมื่อเทียบกับรถกุ)
... กุเบื่อเต็มทน แม้เข่ากุจะฟกช้ำ และสภาพจิตในย่ำแย่จากการ ฟังคำพูดอีชะนี ดัดฟัน
กุเลยบอกไม่เป้นไร(หยิ่งซะ)...ไม่เอาไรหรอก ไปนะ (ถอนหายใจยาว) แล้วก็ขับรถออกมาเลย (เพราะเซ็งสุดขีด...ก็เข้าใจนะ และ ไม่อยากเห็นหน้าอีชะนีนางนั้นด้วย เชดโด่เอ๊ยย กุ ไม่ได้หน้าเงินนะโว๊ยย กุไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินเลยด้วยซ้ำ เมิงขับมาชนกุจะจะ ไม่มีแม้แต่จะหักหลบเพราะไม่มองทางยังจะมาด่ากุอีก อี เวร)
รถกุบุบนิดหน่อย ก็เเวะซ่อม คนซ่อมบอกเพิ่งชนมาหมาดๆล่ะสิ คนขับหนีไปใช่มั๊ย กุบอก เปล่าก็เครียร์กัน...เค้าถามเจ็บมั๊ย (คนซ่อมยังมีใจถามนะ อีเวรนั่นชนกุ ยังไม่ถาม มีแต่มาด่า อีต่างจังหวัด ไม่รู้ทางยังขับประมาทอีก เชดดมั๊ยย) คนซ่อมถามทำไมไม่เรียกสินไหม (กุคิดในใจ รวยค่ะ ไม่อยากรับเงินอีชะนี) ...กุก็เลย..บอกไม่เจ็บเท่าไหร่แต่เซ็ง... = ="
พอซ่อมรถเสร็จ (ซ่อมแป๊บเดียว) กุยังมือสั่นตีนสั่นอยู่ กุเลยขับชนท้าย อีกทีก่อนถึงบ้าน(ฮามั๊ย) คราวนี้กุผิดเต็มๆ กุเลยออกไปขอโทษ เค้าก็ไม่ว่าอะไร...ก็เลยรีบกลับบ้าน...มาเขียนบล๊อกเพื่อจะบอกว่า...
my dream list no.2 แลมโบกีนี่ กุไม่เอาแล้ววว ตอนโดนชน เสี่ยววินาทีนั้น กุ นึกภาพออกเลยว่าถ้าขับ super car แล้วชนมันจะรุนแรงแค่ไหน...มันไม่คุ้มกันเลยยถึงจะมีปัญญาซื้อก็นะ...กุไม่อยากตายง่ายๆแบบนั้น...แล้วบางทีอาจจะไม่ซื้อ บีเอ็ม..แล้วก็ได้..ตอนนี้รถคันนี้แม้จะเก่าไปหน่อยแต่ขับแล้วสบายใจดี เพราะเป็นรถที่พ่อซื้อให้ ...มันมีความหมาย จริงๆจะออกรถใหม่ตอนนี้ก็ได้แต่เพราะกลัวรถคันเก่าน้อยใจ (คิดแบบนี้จริงๆนะ^^)
ตอนแรกว่ากลับมาแล้วจะเล่นเปียโนซักหน่อย แล้วก็ทำงานซักพัก แล้วค่อยเขียนบล๊อกหรือนอนถ้าง่วง แต่มือยังสั่นเลยเล่นเปียโนไม่ได้ แถมยัง เซ็งอีชะนีนางนั้นด้วย โอ๊ยย กุเข้าใจล่ะว่าทำไม ผญ กับ ผญ ต้องอิจฉากัน ทะเลาะกัน เพราะแย่ง ผช เพราะเรื่องงาน หรือเรื่องเล็กๆ เพราะอารมณ์ของพวกเรามันรุนแรงนี่เองเวลาวีนแตก TT_TT ไว้อาลัย ไปล่ะ ฟาดเคราะห์นะ ...ชนไปสองครั้งรวดเลยวันนี้ 555
ขอบคุณ:สวรรค์ที่ไม่ทำให้หนูเป็นไรมาก และกลับบ้านอย่างปลอดภัย ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ^^
็
วันนี้หลังจากว่ายน้ำเสร็จ...ก็ solo ขับรถเล่นต่อ ....และแล้ว กุก็โดนรถชน ฮือๆๆ แบบรถกุติดไฟแดงใช่ป่ะ กุก็เกียร์ว่างจอดชิดเลนส์ขวาสุดเพราะกุ ขับรถเร็ว...จอดนิ่งๆ รอไฟแดง ....มีกระบะXXX ทะเบียน ตจว. คันนึง (ที่บอกทะเบียนต่างจังหวัดนัยยะคือเค้าไม่ชินทางไง) เป็นรถกะบะที่หย่ายยและสูงงงงมากเมื่อเทียบกันรถคันเล็กๆของน้องมารีนา...แค่ช่วงเวลา 5 วินาที เค้าเลี้ยวมา แต่ตอนนั้นคนขับรถวีโก้ไม่ได้มองว่ามีรถของเราจอดรอไฟแดงที่เลนส์ขวาริมสุด....กุเห็นจะจะกับสองตาเลย หัวรถกะบะพุ่งมาชนรถที่กุจอดติดไฟแดงอย่างจัง....กุหลบไม่ทันเพราะกุเข้าเกียร์ว่างไว้ หักพวกมาลัย ก็ไม่ได้เข้าเกียร์ กุ เลยโดนชนเต๊มๆๆจังๆ....TT_TT นี่ขนาดจอดรถเฉยๆ ก็ยังโดนชนนะเนี่ย ถ้าขับทั้งสองคัน ความเร็ว X 2 กุคงได้ไปหาหมอ....
อีชะนีที่มันนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถออกมาวีน เลยว่า กุจอดรถไฟแดงเลนขวาเกิน ...โอวววว...กุเลย ด่ามัน นี่รถกุจอดเฉยๆๆนะ เมิงมาชนกุ ยังจะมาด่ากุ อีก...แต่กุตกใจมาก ประกอบกับคนแถวนั้นมาช่วยกันเครียร์ แล้วปกติกุไม่พกโทรศัพท์เวลาส่วนตัวกุเลยไม่บอกใคร (แต่เขียนลงบล๊อกระบายค่ะู^^) เดี่ยวดังอีก...คนขับรถก็เลยมาขอโทษกุ เพราะตอนเค้าเลี้ยวมาเค้ามองไปทางอื่นเค้าเลยไม่เห็นกุ ....กุก็เลยขอโทษเค้าบอกเออ กุก็จอดขวาไป (แต่ไม่กินเลนส์ตรงข้ามนะเค๊อะ^^)
กุ นี่อยากจะตบ อีชะนีนางนั้นจริงๆ ...แต่ก็ได้ว่ะ เสียเว...คำนวนล่ะ ไม่อยากแลก ยิ่งไม่มีเวลาอยู่....ดูมันพูด
ชะนี..กระชากเสียง
"จะเอาไรล่ะ เอาเท่าไหร่ " (แสดงว่า มานก็รู้ตัวนะว่ามานนผิด555 มานถึงพูดแบบนี้)
คนไทยแม่๘่งคิดแต่เรื่องเิงิน...ถ้าเป็นฝรั่งจากประสบการณ์จะรีบถามเลยว่าเป็นไรมั๊ย ไปหาหมอเช็คมั๊ย ถูกผิดว่ากันทีหลัง แถมไม่ด่าด้วย แฟนอีชะนีนางนั้น(คนขับ)กับคนมาช่วยกุ เลยถามว่ากุเป็นไรมั๊ย (เพราะรถมันคันหย่ายยมากเมื่อเทียบกับรถกุ)
... กุเบื่อเต็มทน แม้เข่ากุจะฟกช้ำ และสภาพจิตในย่ำแย่จากการ ฟังคำพูดอีชะนี ดัดฟัน
กุเลยบอกไม่เป้นไร(หยิ่งซะ)...ไม่เอาไรหรอก ไปนะ (ถอนหายใจยาว) แล้วก็ขับรถออกมาเลย (เพราะเซ็งสุดขีด...ก็เข้าใจนะ และ ไม่อยากเห็นหน้าอีชะนีนางนั้นด้วย เชดโด่เอ๊ยย กุ ไม่ได้หน้าเงินนะโว๊ยย กุไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินเลยด้วยซ้ำ เมิงขับมาชนกุจะจะ ไม่มีแม้แต่จะหักหลบเพราะไม่มองทางยังจะมาด่ากุอีก อี เวร)
รถกุบุบนิดหน่อย ก็เเวะซ่อม คนซ่อมบอกเพิ่งชนมาหมาดๆล่ะสิ คนขับหนีไปใช่มั๊ย กุบอก เปล่าก็เครียร์กัน...เค้าถามเจ็บมั๊ย (คนซ่อมยังมีใจถามนะ อีเวรนั่นชนกุ ยังไม่ถาม มีแต่มาด่า อีต่างจังหวัด ไม่รู้ทางยังขับประมาทอีก เชดดมั๊ยย) คนซ่อมถามทำไมไม่เรียกสินไหม (กุคิดในใจ รวยค่ะ ไม่อยากรับเงินอีชะนี) ...กุก็เลย..บอกไม่เจ็บเท่าไหร่แต่เซ็ง... = ="
พอซ่อมรถเสร็จ (ซ่อมแป๊บเดียว) กุยังมือสั่นตีนสั่นอยู่ กุเลยขับชนท้าย อีกทีก่อนถึงบ้าน(ฮามั๊ย) คราวนี้กุผิดเต็มๆ กุเลยออกไปขอโทษ เค้าก็ไม่ว่าอะไร...ก็เลยรีบกลับบ้าน...มาเขียนบล๊อกเพื่อจะบอกว่า...
my dream list no.2 แลมโบกีนี่ กุไม่เอาแล้ววว ตอนโดนชน เสี่ยววินาทีนั้น กุ นึกภาพออกเลยว่าถ้าขับ super car แล้วชนมันจะรุนแรงแค่ไหน...มันไม่คุ้มกันเลยยถึงจะมีปัญญาซื้อก็นะ...กุไม่อยากตายง่ายๆแบบนั้น...แล้วบางทีอาจจะไม่ซื้อ บีเอ็ม..แล้วก็ได้..ตอนนี้รถคันนี้แม้จะเก่าไปหน่อยแต่ขับแล้วสบายใจดี เพราะเป็นรถที่พ่อซื้อให้ ...มันมีความหมาย จริงๆจะออกรถใหม่ตอนนี้ก็ได้แต่เพราะกลัวรถคันเก่าน้อยใจ (คิดแบบนี้จริงๆนะ^^)
ตอนแรกว่ากลับมาแล้วจะเล่นเปียโนซักหน่อย แล้วก็ทำงานซักพัก แล้วค่อยเขียนบล๊อกหรือนอนถ้าง่วง แต่มือยังสั่นเลยเล่นเปียโนไม่ได้ แถมยัง เซ็งอีชะนีนางนั้นด้วย โอ๊ยย กุเข้าใจล่ะว่าทำไม ผญ กับ ผญ ต้องอิจฉากัน ทะเลาะกัน เพราะแย่ง ผช เพราะเรื่องงาน หรือเรื่องเล็กๆ เพราะอารมณ์ของพวกเรามันรุนแรงนี่เองเวลาวีนแตก TT_TT ไว้อาลัย ไปล่ะ ฟาดเคราะห์นะ ...ชนไปสองครั้งรวดเลยวันนี้ 555
ขอบคุณ:สวรรค์ที่ไม่ทำให้หนูเป็นไรมาก และกลับบ้านอย่างปลอดภัย ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ^^
็
วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
A-Z living wITh lOvE wiTHouT Fear VI
my today's diary
วันนี้ กุ ของขึ้นนิสนุง แมร๋๘ง เบื่อจริงๆ เลยพวกดีแต่พูดเนี่ย บ่นในบล๊อกไม่เป็นไรหรอกนะไม่ได้บังคับให้ใครอ่านนี่ 555
วันนี้ใช่ป่ะมีประชุมวาระนึง กุ ก็แบบนะ โง่อ่ะโง่ กุไม่เข้าใจไรก็ถามใช่ป่ะ ...แล้วแบบ ปกติมันจะมีคนตอบกุ ให้ make sense เสมอกุ ก็จะหายโง่ เพราะกุ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ กุ เป็นแค่ผู้บริหาร กุ ไม่ได้ทำงานเอง กุ ก็ต้องถามเอากับคนทำงาน
...เออทีนี้ เวลาประชุมมันก็จะมี คนต่างชาติซะส่วนใหญ่ เพราะทำงานกันข้ามชาติ (ชาตินี้ถึงชาติหน้า) บังเอิ๊นวันนี้มีคนไทยหน้าใหม่ไฟแรงติดมาคนนึง กุก็ ok ฟังทุกความคิดเห็น...แต่ก่อนประชุมเนี่ย กุ นี่จะต้องอ่านข้อมูลทำการบ้านก่อนการประชุมทุกครั้ง เพราะไม่งั้น กุจะไม่เข้าใจประเด็น มีอะไรก็ถามๆๆๆ ทำแบบนี้มาตลอดและทุกๆคนก็ตอบกุตลอด (ด้วยความเกรงใจและต้องการประสานงานให้ราบรื่น) เพราะฝรั่งก็จริงจังกับการทำงานและตรงเวลาอยู่แล้ววว
....แต่อีคนไทยหน้าใหม่วันนี้ (ผู้ชายซะด้วย) เด็กจบใหม่ ....กุก็ซักประเด็น ทุกๆคนไปเรื่อยๆ ทุกคนก็อธิบายเรื่อยๆ อีเด็กใหม่ มันไม่ได้ตอบซักที กุ ก็ไม่เชื่อมือไม่อยากถามมัน แต่เด็กมันเสนอตัวว่าเออ 555 ผมเก่ง ไรเทือกๆนี้ .... กุเลยบอกว่า "อะงั้นเธอ อธิบายมา"....๔฿๒๑๓๔ู฿๕@#$%^&*()
กุเลยพูดบอกฝรั่งว่าว่า "โอ๊ยเสียเว..คราวหน้าเอามืออาชีพคนทำงานเป็นเก่งจริงกว่านี้มานั่งประชุมบรี๊ฟให้กุได้ม่ะคราวหน้า" ...อีฝรั่งตอบกุว่า "ผมดีใจนะครับที่คุณจริงจังมากขนาดนี้" .....กุเลยตอบว่า "ชั้นจริงจังกับทุกเรื่อง ไม่งั้นก็เสียเว...."
สรุป กุ ไม่ผิดนะที่พูดกับเด็กใหม่ไปแบบนั้น ...ก็กุให้มันอธิบายแล้วมันก็อ้ำๆอึ้งๆ ....พูดไม่ออก ตื่นเต้นไม่เตรียมตัว ไม่เป็นมืออาชีพ..ทำไมกุต้องทนกับความงี่เง่าแบบนี้ กุไม่ทน เราไม่ควรอดทนกับสิ่งที่ไม่คู่ควร คนที่ไม่เตรียมตัว มืออาชีพน่ะเข้าใจมั๊ยเด็กเอ๋ย เอวังจบด้วยประการชะนี้ ไม่มีการขอโทษ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดค่ะ ^^
กุยอมรับจริงๆว่ากุชอบทำงานกับฝรั่งมากกว่าคนไทย ....ไม่ใช่คนไทยไม่ดี แต่กุคงจริงจังเกินไปสำหรับคนไทย(บางคน) โดยเฉพาะเด็กจบใหม่สมัยนี้(ถอนหายใจยาว) ... อ่านะเท่าที่สังเกตดู..มิน่า กุ ถึงมีแต่ แฟนฝรั่งหรือคนจีน =="
................................................
A-Z living wITh lOvE wiTHouT Fear VI
ใครอยากอ่าน A-Z living wITh lOvE wiTHouT Fear I-V เข้า category Rina-A-Z-varity click
คราวที่แล้วถึงตัว L
Motive: คนที่มีชีวิตอยู่ด้วยความรัก จะมีแรงบันดาลใจเสมอ แม้จะเจออุปสรรค เพราะความรักทำให้สายตากว้างไกลมองเห็นภาพรวมของชีวิต...แต่ความกลัวจะปิดตาปิดใจปิดโลกทัศน์ทั้งหมด ไร้แรงบันดาลใจก็ไร้พลัง
Numb: คนที่มีชีวิตอยู่ด้วยความรักจะไม่มีความชินชาในชีวิตแม้ว่าจะสุขแค่ไหนหรือยากลำเพียงใด คนคนนั้นจะมีพลังและกระตือรือล้นเรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอเพราะเขารู้ว่าความชินชาทำให้ชีวิตเข้าสู่ความประมาททีละน้อย คนที่รักชีวิตจะไม่ชินชาแต่จะตื่นตัวและเจริญสติตลอดเวลา....แต่คนที่กลัวจะยอมรับอะไรง่ายๆใช้ชีวิตแบบแกนๆ น่าเบื่อ..ออกแนวขี้แพ้...จะให้ถูกคือ เป็นเหยื่อโชคชะตาตลอดเวลานั่นเอง....อ้อ..ตื่นตัวคนละเรื่องกับหวาดระเเวงนะเค๊อะ
Obey: แต่คนที่มีชีวิตด้วยความรักจะเคารพและใส่ใจคนรอบข้างเสมอ เขาจึงเข้าได้กับทุกคนได้และยังคงความเป็นตัวของตัวเองไว้ได้ด้วย = win win ไม่เสแสร้ง ไม่ขัดความรู้สึก เพราะเขาเข้าใจว่า คนหลายๆคนมาอยู่รวมกันย่อมต้องมีขัดแย้งบ้าง โอนอ่อนบ้างเป็นเรื่องธรรมดา...ส่วนคนขี้กลัวขี้แพ้จะ ไม่เคยจริงใจกับใครแม้แต่กับตัวเองเขาจึงรู้สึก"ขาด" และ "ต้องการ" อยู่ตลอดเวลา อยากได้แต่ไม่อยากให้ อยากมีคนรักแต่ไม่รักตัวเอง อยากมีเพื่อนแต่นินทา อิจฉา....ลึกๆล้วคนที่อยู่ด้วยความกลัวจะไม่เชื่อฟังใครเชื่อใจใครแม้แต่ตัวเองเลยยยย
วันนี้ได้3 ตัวเหนื่อยมาก ประชุมคิดๆๆๆเหนื่อยค่ะ ==
good night & bye for now my blog ^_^
คำปิดท้ายเอนทรี่นี้นะ
ขอบคุณ สวรรค์ที่ทำให้หนูเป็นหนู^^ reasonstosmile everyone who owned these pics Enya for nice pics อายุมิมายไอดัลและทุกคนบนโลกนี้ที่ดีกับชั้น ^^
ลาไปกับน้องแมวกำลังตื่นตัวอย่างเต็มที่ซะล่ะมั้ง 555
วันนี้ กุ ของขึ้นนิสนุง แมร๋๘ง เบื่อจริงๆ เลยพวกดีแต่พูดเนี่ย บ่นในบล๊อกไม่เป็นไรหรอกนะไม่ได้บังคับให้ใครอ่านนี่ 555
วันนี้ใช่ป่ะมีประชุมวาระนึง กุ ก็แบบนะ โง่อ่ะโง่ กุไม่เข้าใจไรก็ถามใช่ป่ะ ...แล้วแบบ ปกติมันจะมีคนตอบกุ ให้ make sense เสมอกุ ก็จะหายโง่ เพราะกุ ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ กุ เป็นแค่ผู้บริหาร กุ ไม่ได้ทำงานเอง กุ ก็ต้องถามเอากับคนทำงาน
...เออทีนี้ เวลาประชุมมันก็จะมี คนต่างชาติซะส่วนใหญ่ เพราะทำงานกันข้ามชาติ (ชาตินี้ถึงชาติหน้า) บังเอิ๊นวันนี้มีคนไทยหน้าใหม่ไฟแรงติดมาคนนึง กุก็ ok ฟังทุกความคิดเห็น...แต่ก่อนประชุมเนี่ย กุ นี่จะต้องอ่านข้อมูลทำการบ้านก่อนการประชุมทุกครั้ง เพราะไม่งั้น กุจะไม่เข้าใจประเด็น มีอะไรก็ถามๆๆๆ ทำแบบนี้มาตลอดและทุกๆคนก็ตอบกุตลอด (ด้วยความเกรงใจและต้องการประสานงานให้ราบรื่น) เพราะฝรั่งก็จริงจังกับการทำงานและตรงเวลาอยู่แล้ววว
....แต่อีคนไทยหน้าใหม่วันนี้ (ผู้ชายซะด้วย) เด็กจบใหม่ ....กุก็ซักประเด็น ทุกๆคนไปเรื่อยๆ ทุกคนก็อธิบายเรื่อยๆ อีเด็กใหม่ มันไม่ได้ตอบซักที กุ ก็ไม่เชื่อมือไม่อยากถามมัน แต่เด็กมันเสนอตัวว่าเออ 555 ผมเก่ง ไรเทือกๆนี้ .... กุเลยบอกว่า "อะงั้นเธอ อธิบายมา"....๔฿๒๑๓๔ู฿๕@#$%^&*()
กุเลยพูดบอกฝรั่งว่าว่า "โอ๊ยเสียเว..คราวหน้าเอามืออาชีพคนทำงานเป็นเก่งจริงกว่านี้มานั่งประชุมบรี๊ฟให้กุได้ม่ะคราวหน้า" ...อีฝรั่งตอบกุว่า "ผมดีใจนะครับที่คุณจริงจังมากขนาดนี้" .....กุเลยตอบว่า "ชั้นจริงจังกับทุกเรื่อง ไม่งั้นก็เสียเว...."
สรุป กุ ไม่ผิดนะที่พูดกับเด็กใหม่ไปแบบนั้น ...ก็กุให้มันอธิบายแล้วมันก็อ้ำๆอึ้งๆ ....พูดไม่ออก ตื่นเต้นไม่เตรียมตัว ไม่เป็นมืออาชีพ..ทำไมกุต้องทนกับความงี่เง่าแบบนี้ กุไม่ทน เราไม่ควรอดทนกับสิ่งที่ไม่คู่ควร คนที่ไม่เตรียมตัว มืออาชีพน่ะเข้าใจมั๊ยเด็กเอ๋ย เอวังจบด้วยประการชะนี้ ไม่มีการขอโทษ เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดค่ะ ^^
กุยอมรับจริงๆว่ากุชอบทำงานกับฝรั่งมากกว่าคนไทย ....ไม่ใช่คนไทยไม่ดี แต่กุคงจริงจังเกินไปสำหรับคนไทย(บางคน) โดยเฉพาะเด็กจบใหม่สมัยนี้(ถอนหายใจยาว) ... อ่านะเท่าที่สังเกตดู..มิน่า กุ ถึงมีแต่ แฟนฝรั่งหรือคนจีน =="
................................................
A-Z living wITh lOvE wiTHouT Fear VI
ใครอยากอ่าน A-Z living wITh lOvE wiTHouT Fear I-V เข้า category Rina-A-Z-varity click
คราวที่แล้วถึงตัว L
Motive: คนที่มีชีวิตอยู่ด้วยความรัก จะมีแรงบันดาลใจเสมอ แม้จะเจออุปสรรค เพราะความรักทำให้สายตากว้างไกลมองเห็นภาพรวมของชีวิต...แต่ความกลัวจะปิดตาปิดใจปิดโลกทัศน์ทั้งหมด ไร้แรงบันดาลใจก็ไร้พลัง
Numb: คนที่มีชีวิตอยู่ด้วยความรักจะไม่มีความชินชาในชีวิตแม้ว่าจะสุขแค่ไหนหรือยากลำเพียงใด คนคนนั้นจะมีพลังและกระตือรือล้นเรียนรู้และเติบโตอยู่เสมอเพราะเขารู้ว่าความชินชาทำให้ชีวิตเข้าสู่ความประมาททีละน้อย คนที่รักชีวิตจะไม่ชินชาแต่จะตื่นตัวและเจริญสติตลอดเวลา....แต่คนที่กลัวจะยอมรับอะไรง่ายๆใช้ชีวิตแบบแกนๆ น่าเบื่อ..ออกแนวขี้แพ้...จะให้ถูกคือ เป็นเหยื่อโชคชะตาตลอดเวลานั่นเอง....อ้อ..ตื่นตัวคนละเรื่องกับหวาดระเเวงนะเค๊อะ
Obey: แต่คนที่มีชีวิตด้วยความรักจะเคารพและใส่ใจคนรอบข้างเสมอ เขาจึงเข้าได้กับทุกคนได้และยังคงความเป็นตัวของตัวเองไว้ได้ด้วย = win win ไม่เสแสร้ง ไม่ขัดความรู้สึก เพราะเขาเข้าใจว่า คนหลายๆคนมาอยู่รวมกันย่อมต้องมีขัดแย้งบ้าง โอนอ่อนบ้างเป็นเรื่องธรรมดา...ส่วนคนขี้กลัวขี้แพ้จะ ไม่เคยจริงใจกับใครแม้แต่กับตัวเองเขาจึงรู้สึก"ขาด" และ "ต้องการ" อยู่ตลอดเวลา อยากได้แต่ไม่อยากให้ อยากมีคนรักแต่ไม่รักตัวเอง อยากมีเพื่อนแต่นินทา อิจฉา....ลึกๆล้วคนที่อยู่ด้วยความกลัวจะไม่เชื่อฟังใครเชื่อใจใครแม้แต่ตัวเองเลยยยย
วันนี้ได้3 ตัวเหนื่อยมาก ประชุมคิดๆๆๆเหนื่อยค่ะ ==
good night & bye for now my blog ^_^
คำปิดท้ายเอนทรี่นี้นะ
ขอบคุณ สวรรค์ที่ทำให้หนูเป็นหนู^^ reasonstosmile everyone who owned these pics Enya for nice pics อายุมิมายไอดัลและทุกคนบนโลกนี้ที่ดีกับชั้น ^^
ลาไปกับน้องแมวกำลังตื่นตัวอย่างเต็มที่ซะล่ะมั้ง 555
วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
แนะนำ cat.21 Rina-my-mystery
ว่าจะเปิดตัว แมวตัวใหม้ตั้งแต่กลับมาจากสิงคโปรค์แล้วล่ะ แต่ไม่ว่างและมีเรื่องให้เขียนมากมาย (เพราะเจ้าของบล๊อกเป็นเด็กสมาธิสั้นมาตั้งแต่เกิดมีเรื่องให้คิดมากมายT-T มันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียนะเนี่ยใครว่าออทิสติกต้องประสาทแดก ม่ายจริง ไม่จริง ไม่จริง)
cat.21 Rina-my-mystery
เป็นภาคต่อเนื่องของ Rina-my-Spiritual เป็นผลการทดลองจากการฝึกพลังจิตเราจึงเอามา ประยุกต์ใช้กับ ศาสตร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป้น white or black magic ยังอยู่ในขั้นการทดลอง เพราะว่า เรา "รู้" แล้วว่า เรื่องพวกนี้มีจริง ...มันก็เหมือนกับ การฝึกพลังจิตอีกรูปแบบหนึ่งการติดต่อกับวิญาณหรือมิติ อื่นๆ เวลาเราฟุ้งซ่านมากๆคิดไรไม่ออกนอกจากเล่นกีฬาแล้วเราจะสวดมนต์หรือท่องอะไรไปเรื่อยๆซ้ำๆไปเรื่อยๆจนจิตนิ่ง...
จิตเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากนะถ้าเราเอาชนะใจตัวเองได้ในบางเรื่องหรือทุกเรื่อง ชนะสิ่งอื่นๆไม่ใช่เฉพาะคนก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ประเด็นคือต้องฝึกฝนมุ่งมั่นจนชนะใจตัวเองได้ในระดับหนึ่ง พอจิตมันนิ่งแล้วนอกจากปัญญาจะมา แล้ว "ปาฏิหาริย์" ก็ยังมา เช่น ดึงดูดสิ่งที่เราต้องการ รักษาโรคเบื้องต้น รวมถึงโรคที่แพทย์ไม่สามารถรักษาได้ได้ อ่านใจคนได้ สั่งคนได้ สั่งผีได้
สามารถ (หยั่งรู้) มองเห้นอนาคตได้ในบางครั้ง ...บ่อยๆครั้งเลยแหละ (เพราะอดีต ปัจจุบัน อนาคต คือสิ่งเดียวกัน) ถ้าปัจจุบันชัดเจนมากอนาคตมันจะหนีไปไหน มันก้คือปัจจุบันนั่นแหละ^^
Rina-my-mystery เป็นการ เริ่มเรียนรู้ศาสตร์ การใช้ พลัง สมาธิ ความศรัทธา ปัญญา ในขั้นสูงขึ้นและประยุกต์ขึ้น เช่น
ศาสตร์ วูดู ปราณ ซี่ ไท่เก็ก (ไม่เอาเขมรม่ายถูกจริต) กำลังภายในแบบต่างๆ
แต่ Rina-my-Spiritual จะเป็นการทบทวนความรู้ของเราทั้งหมดที่ฝึกมา 6 ปี....อันนึงทบทวน อันนึง เริ่มเรียนใหมู่^^
เราเริ่มเรียนภาษาจีน แบบเฉพาะพูดมาประมาณ 7 ปีแรกๆเอาไว้ใช้ทำงานติดต่อสื่อสารอย่างเดียวไม่ใส่ใจจำอะไรลึกซึ้งไม่ต่อยอด โง่ยังไงโง่อย่างนั้น แต่ตอนนี้เหล่าซือมาเมืองไทยสอนเขียนอักษรจีนด้วย ก็ดีจะได้ศึกษาธรรมะแบบจีนผ่านตัวอักษรจีนไปเลย win win ในความเห็นเรานะ ภาษา จีนง่ายกว่าภาษาอังกฤษ มันเป้นคำโดดๆ จำคำได้ก็พูดได้ ไม่เหมือนภาษาอังกฤษ หรือเยอรมัน ฝรั่งเศส มีแต่ไวยากรณ์ที่ไม่ make sense...หัวใจของภาษาจีนในความเห็นเราคือ ... การออกเสียงวรรณยุค โทนเสียงทั้ง 5 ให้ถูกต้อง จำความหมายได้ ก็พูดได้แล้ว .... มันก็เหมือนทุกเรื่องในชีวิต ฝึกบ่อยๆ ก็ได้เองอัตโนมัติ ไม่ได้มหัสจรรย์อะไรเลยยความมุ่งมั่น ล้วน ล้วน
ok แมวตัวที่ 21 ของ blog ...Rina-my-mystery จงเจริญ ^^
คำปิดท้ายบทความนี้....
"ฉันรู้แล้วล่ะว่า
ฉันกำลังขอในสิ่งที่ฝืนธรรมชาติ
ที่ จริง แล้ว
ฉันสมควรสวดมนต์ภาวนา
ขอความเข้มเเข็งให้กับจิตใจ
เมื่อต้องเผชิญกับความทุกข์
อย่างกล้าหาญและอดทนต่างหาก"
ดร.นวลศิริ เปาโรหิตย์
ขอบคุณ my God and god who always love me ^^ everyone who owned these pics secret garden for wonderful music ดร. นวลศิริ เปาโรหิตย์ อายุมิมายไอดัลและทุกคนบนโลกนี้ที่ดีกับชั้น^^
ลาไปกับน้องแมวนั่งทางใน น่าร๊ากก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)